จ้าง ท นาย คดีแพ่ง ราคา

จ้างทนายคดีแพ่ง ราคาเท่าไหร

การว่าจ้างทนายความสำหรับคดีแพ่งในประเทศไทยนั้นมีอัตราค่าบริการที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ตั้งแต่ความซับซ้อนของคดี ประสบการณ์ของทนายความ ไปจนถึงรูปแบบการคิดค่าบริการที่ตกลงกันระหว่างทนายความและลูกความ โดยทั่วไปแล้ว อัตราค่าจ้างทนายคดีแพ่งสามารถแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ และมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นบาทไปจนถึงหลายแสนบาท หรืออาจสูงกว่านั้นในคดีที่มีความซับซ้อนและมีทุนทรัพย์สูง

รูปแบบการคิดค่าบริการทนายความคดีแพ่ง

โดยทั่วไปแล้ว สำนักงานกฎหมายและทนายความในประเทศไทยจะเสนอรูปแบบการคิดค่าบริการสำหรับคดีแพ่ง ดังนี้:

  • ค่าบริการแบบเหมาจ่ายทั้งคดี (Flat Fee): เป็นรูปแบบที่พบบ่อยที่สุดสำหรับคดีแพ่งที่ไม่ซับซ้อนมากนัก โดยทนายความจะประเมินปริมาณงานทั้งหมดและเสนอราคาเหมาจ่ายตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกระบวนการในศาลชั้นต้น รูปแบบนี้ช่วยให้ลูกความสามารถควบคุมงบประมาณได้ง่าย
  • ค่าบริการรายชั่วโมง (Hourly Rate): มักใช้ในคดีที่มีความซับซ้อนและยากต่อการประเมินระยะเวลาที่แน่นอน หรือในการให้คำปรึกษาทางกฎหมายเบื้องต้น อัตราค่าบริการรายชั่วโมงจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทนายความ
  • ค่าบริการคิดตามสัดส่วนของทุนทรัพย์หรือผลสำเร็จของคดี (Contingency Fee): ในคดีแพ่งบางประเภท โดยเฉพาะคดีเรียกร้องค่าเสียหาย ทนายความอาจตกลงรับค่าว่าความส่วนหนึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์จากจำนวนเงินที่ลูกความจะได้รับหากชนะคดี โดยทั่วไปจะมีการตกลงค่าใช้จ่ายเบื้องต้นส่วนหนึ่งก่อน
  • ค่าบริการที่ปรึกษากฎหมายรายเดือน (Retainer Fee): เหมาะสำหรับธุรกิจหรือบุคคลที่ต้องการคำปรึกษาทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยจะจ่ายเป็นรายเดือนเพื่อให้ทนายความคอยให้คำแนะนำและดูแลปัญหาทางกฎหมายต่างๆ

ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราค่าจ้างทนายความ

อัตราค่าบริการทนายความในคดีแพ่งจะผันแปรไปตามปัจจัยต่างๆ ดังนี้:

  • ประเภทและความซับซ้อนของคดี: คดีที่มีความซับซ้อน มีประเด็นข้อกฎหมายที่ต้องตีความ หรือมีพยานหลักฐานจำนวนมาก ย่อมมีค่าบริการที่สูงกว่าคดีที่ไม่ซับซ้อน
  • ทุนทรัพย์ในคดี: คดีที่มีจำนวนเงินเรียกร้องหรือมูลค่าของทรัพย์สินที่พิพาทสูง มักจะมีค่าทนายความที่สูงขึ้นตามไปด้วย
  • ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทนายความ: ทนายความที่มีชื่อเสียง มีประสบการณ์สูง หรือมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในคดีประเภทนั้นๆ ย่อมมีอัตราค่าบริการที่สูงกว่า
  • ขั้นตอนของคดี: ค่าบริการในการดำเนินคดีในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา จะมีอัตราที่แตกต่างกัน โดยค่าใช้จ่ายในชั้นอุทธรณ์และฎีกามักจะสูงขึ้น
  • ปริมาณงานและระยะเวลาในการดำเนินคดี: คดีที่คาดว่าจะใช้ระยะเวลานานและมีปริมาณงานมาก เช่น การรวบรวมพยานหลักฐาน การสืบพยานหลายปาก ย่อมมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

อัตราค่าบริการโดยประมาณสำหรับคดีแพ่งประเภทต่างๆ

จากข้อมูลของสำนักงานกฎหมายหลายแห่งในประเทศไทย สามารถสรุปอัตราค่าบริการเบื้องต้นสำหรับคดีแพ่งประเภทต่างๆ ได้ดังนี้:

  • คดีกู้ยืมเงิน, คดีผิดสัญญา, คดีละเมิด (ไม่ซับซ้อน): ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ 30,000 – 50,000 บาท สำหรับการดำเนินคดีในศาลชั้นต้น
  • คดีฟ้องหย่า, แบ่งสินสมรส:
    • กรณีตกลงกันได้ (ฟ้องหย่าอย่างเดียว): เริ่มต้นประมาณ 20,000 – 40,000 บาท
    • กรณีมีข้อพิพาทเรื่องสินสมรสหรือสิทธิเลี้ยงดูบุตร: เริ่มต้นประมาณ 50,000 บาทขึ้นไป และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากมูลค่าสินสมรส
  • คดีมรดก, จัดการมรดก:
    • ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก (ไม่มีผู้คัดค้าน): เริ่มต้นประมาณ 20,000 – 40,000 บาท
    • คดีพิพาทเกี่ยวกับมรดก: เริ่มต้นประมาณ 50,000 บาทขึ้นไป
  • การดำเนินคดีในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา: โดยทั่วไปจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากศาลชั้นต้น เริ่มต้นประมาณ 40,000 – 60,000 บาทขึ้นไป ต่อชั้นศาล