จ้าง ท นาย ผู้จัดการ มรดก ราคาเท่าไหร่

จ้างทนายความ “ผู้จัดการมรดก” ราคาเท่าไหร่?

การจ้างทนายความเพื่อยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก เป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่สำคัญเพื่อให้มีอำนาจในการจัดการและแบ่งปันทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตได้อย่างถูกต้อง โดยค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคดีเป็นหลัก สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนหลักคือ ค่าทนายความ และ ค่าธรรมเนียมศาล

1. ค่าทนายความ (ส่วนที่ผันแปร)

นี่คือค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ ซึ่งไม่มีอัตรากำหนดตายตัว ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างคุณกับทนายความ โดยสามารถแบ่งตามลักษณะคดีได้ดังนี้

กรณีที่ 1: ไม่มีผู้คัดค้าน (ทายาททุกคนยินยอม)

เป็นกรณีที่พบบ่อยที่สุด คือทายาททุกคนในลำดับชั้นเดียวกันให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร และไม่มีใครโต้แย้งการตั้งผู้จัดการมรดก

  • อัตราค่าบริการทั่วไป (เหมาจ่าย): ประมาณ 15,000 – 30,000 บาท
    • ราคานี้มักจะรวมค่าบริการทั้งหมดตั้งแต่การให้คำปรึกษา, เตรียมเอกสาร, ยื่นคำร้องต่อศาล, และพาผู้ร้องไปเบิกความในวันนัดไต่สวนจนศาลมีคำสั่ง
    • สำหรับคดีที่ไม่ซับซ้อน ทรัพย์สินไม่มาก และอยู่ในพื้นที่เดียวกับทนายความ อาจหาทนายที่รับทำในราคา 10,000 – 15,000 บาท ได้
กรณีที่ 2: มีผู้คัดค้าน (ทายาทไม่ยินยอม)

หากมีทายาทคนใดคนหนึ่งยื่นคำร้องคัดค้านการตั้งผู้จัดการมรดก คดีจะกลายเป็นคดีมีข้อพิพาท ซึ่งซับซ้อนและใช้เวลามากกว่า

  • อัตราค่าบริการทั่วไป: เริ่มต้นที่ 30,000 – 60,000 บาท หรือสูงกว่านั้น
    • ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากทนายต้องทำงานมากขึ้น เช่น การทำคำให้การสู้คดี, การเตรียมพยานหลักฐานเพื่อสืบพยานหักล้างฝ่ายที่คัดค้าน, และอาจต้องขึ้นศาลหลายนัด
2. ค่าธรรมเนียมศาลและค่าใช้จ่ายอื่นๆ (อัตราค่อนข้างคงที่)

นอกเหนือจากค่าทนายความ ผู้ร้องจะต้องชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้กับศาล ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ทนายจะเรียกเก็บเพื่อนำไปชำระตามจริง

  • ค่าขึ้นศาล (ยื่นคำร้อง): 200 บาท
  • ค่าประกาศหนังสือพิมพ์ (เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบ): ประมาณ 500 – 1,000 บาท
  • ค่าส่งหมายให้ทายาท (ถ้ามี): คิดตามอัตราของศาล
  • ค่ารับรองสำเนาคำสั่งศาล: ฉบับละ 50 บาท
  • ค่าใบสำคัญแสดงว่าคดีถึงที่สุด: ฉบับละ 50 บาท

รวมค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 2,000 บาท


ปัจจัยที่มีผลต่อค่าทนายความ
  • ความซับซ้อนของทรัพย์มรดก: เช่น มีทรัพย์สินหลายประเภท, อยู่หลายจังหวัด, หรือมีหนี้สินจำนวนมาก
  • ความยุ่งยากในการรวบรวมเอกสาร: เช่น เอกสารสำคัญของทายาทหรือเจ้ามรดกสูญหาย
  • ประสบการณ์และชื่อเสียงของทนายความ: ทนายความที่มีประสบการณ์สูงหรือสำนักงานกฎหมายขนาดใหญ่อาจมีอัตราค่าบริการสูงกว่า
  • ขอบเขตของงาน: ตกลงให้ชัดเจนว่าราคานั้นครอบคลุมถึงขั้นตอนไหน เช่น แค่ดำเนินการจนศาลมีคำสั่ง หรือรวมถึงการช่วยโอนทรัพย์สินที่กรมที่ดินด้วย