คดีเปิดทางจำเป็น หรือที่ตาบอด
ที่ดินตาบอด ถูกที่ดินแปลงอื่นล้อมรอบอยู่ จนไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะ หรือออกได้ลำบากมาก เพราะต้องข้ามสระ บึง ทะเลหรือที่สูงชัน กฎหมายบัญญัติให้เจ้าของที่ดินที่ถูกล้อม มีสิทธิฟ้องขอเปิดใช้ทางออกในที่ดินของผู้อื่นที่ล้อมรอบอยู่ได้เท่าที่จำเป็น โดยต้องเสียค่าทดแทน
การได้มาซึ่งทางจำเป็น มีองค์ประกอบดังนี้
1 ต้องเป็นที่ดินที่มีแปลงอื่นล้อมอยู่
2 ที่ดินไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะได้ หรือมีแต่ไม่สะดวก เช่น ข้ามบึง ทะเล หรือที่สูงชัน เป็นต้น
3 ใช้ออกสู่ทางสาธารณะอย่างเดียว
โดยการขอทางจำเป็น ต้องสมควรแก่ทางจำเป็น และทำให้เกิดความเสียหายแก่ที่ดินแปลงอื่นที่ล้อมอยู่ให้น้อยที่สุด
ความหมายของทางสาธารณะ
1 ทางสาธารณะที่ชัดเจน ระบุไว้ในโฉนด
2 ไม่มีระบุในโฉนดว่าเป็นทางสาธารณะ แต่ประชาชนใช้ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นสาธารณะโดยปริยายหรือโดยสภาพ
ทางจำเป็นมีได้ในกรณี
1 โดยบทบัญญัติของกฎหมาย ไม่ต้องไปจดทะเบียน
2 โดยนิติกรรมสัญญา แล้วแต่เจ้าของที่ดินจะตกลงกัน
3 โดยจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นนั้น
กรณีแบ่งแยกหรือแบ่งโอนกัน เป็นเหตุให้แปลงหนึ่งไม่มีทางออกไปสู่สาธารณะ เจ้าของที่ดินแปลงนั้นมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดิน ตามมาตรา 1349 ได้เฉพาะที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยกหรือแบ่งโอนกัน และไม่ต้องเสียค่าทดแทน
หลักเกณฑ์พิจารณาเส้นทาง : ใกล้ทางสาธารณะที่สุด สะดวกที่สุด เหมาะสมกับความเป็นจำกว่าทางอื่น
ผู้มีสิทธิฟ้องขอให้เปิดทางจำเป็น
1 เจ้าของที่ดินซึ่งถูกปิดล้อมเท่านั้น ผู้เช่าหรือเจ้าของบ้าน ไม่มีสิทธิ
2 บุคคลผู้มีสิทธิใช้ทางจำเป็น
3 ผู้รับโอนที่ดินซึ่งไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะ
4 เจ้าของที่ดินจดคลองตื้นเขินประชาชนไม่สามารถใช้เป็นทางสัญจรไปมานานแล้วทางอื่นออกไม่ได้ จึงใช้ทางจำเป็นผ่านที่ล้อมได้
คําพิพากษาฎีกาที่ ๒๔๕๔/๒๕๓๖ ที่ดินของโจทก์และที่ดินของจําเลยอยู่ ติดกัน ที่ดินของโจทก์มีที่ดินของจําเลยและที่ดินแปลงอื่นร้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงทาง สาธารณะได้ เมื่อปรากฏว่าหากโจทก์จะออกสู่ทางสาธารณะ ทางที่ใกล้ที่สุดจะต้อง ผ่านที่ดินของจําเลยตามที่พิพาท โจทก์จึงมีสิทธิจะใช้ที่พิพาทเป็นทางจําเป็นผ่านไปสู่ ทางสาธารณะได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๕๙
คําพิพากษาฎีกาที่ ๕๑๐๓/๒๕๔๗ การขอทางผ่านที่ดินซึ่งล้อมอยู่ไปสู่ทาง สาธารณะตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๗๔๙ วรรคหนึ่ง มุ่งพิจารณาถึงสภาพของที่ดินนั้น จะต้องถูกที่ดินแปลงอื่นล้อมจนไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะเป็นสําคัญ เจ้าของที่ดิน แปลงนั้นจึงมีสิทธิจะผ่านที่ดินซึ่งล้อมอยู่ออกไปสู่ทางสาธารณะได้ โดยมิได้กําหนด เงื่อนไขว่าผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกล้อมจะต้องได้ที่ดินมาโดยสุจริต กล่าวคือ ต้องไม่รู้ว่า ที่ดินที่ตนได้มาถูกที่ดินแปลงอื่นล้อมจนไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะมาก่อน หาก รู้มาก่อนถือว่าไม่สุจริตไม่มีสิทธิผ่านที่ดินแปลงที่ล้อมออกสู่ทางสาธารณะได้แต่อย่างใด ดังนั้น แม้โจทก์จะซื้อที่ดินมาโดยรู้อยู่แล้วว่ามีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่จนไม่มีทางออก สู่ทางสาธารณะก็ไม่ทําให้สิทธิของโจทก์ที่จะผ่านที่ดินที่ล้อมอยู่ออกสู่ทางสาธารณะ หมดไป เพราะสิทธิของโจทก์ดังกล่าวเป็นสิทธิที่กฎหมายบัญญัติให้ไว้ ซึ่งหากจําเลย ได้รับความเสียหายจากการเปิดทางจําเป็นดังกล่าว จําเลยก็มีสิทธิเรียกร้องค่าทดแทน เป็นค่าเสียหายได้ ตามมาตรา ๑๓๔๙ วรรคสี่
