หลักเกณฑ์ในการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ (มาตรา 90/3และมาตรา 90/5)
ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือไม่สามารถที่จะชำระหนี้ตามกำหนดได้
ลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้คนเดียวหรือหลายคนรวมกันเป็นจำนวนแน่นอนไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท
ไม่ว่าหนี้นั้นจะถึงกำหนดชำระโดยพลันหรือในอนาคตก็ตาม
มีเหตุอันสมควรและมีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการ (เหตุอันสมควร เช่น ลูกหนี้ต้องรับภาระหนี้สิน
เพิ่มขึ้นเนื่องจากปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจ หรือลูกหนี้ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุครั้งใหญ่
ซึ่งก่อให้เกิดหนี้ต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก หรือลูกหนี้ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวในภาค
ธุรกิจ ส่วนช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการ เช่นวิธีการในการที่จะทำให้ลูกหนี้สามารถกลับสู่สภาวะ
ทางการเงินที่เป็นปกติได้เช่น การปรับโครงสร้างหนี้หรือปรับลักษณะของธุรกิจให้เหมาะสม
กับสภาวะเศรษฐกิจ)
ลูกหนี้จะต้องไม่ถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว
ลูกหนี้ยังไม่ได้ถูกศาลหรือนายทะเบียนได้มีคำสั่งให้ยกเลิกหรือเพิกถอนทะเบียนนิติบุคคล
หรือมีการจดทะเบียนเลิกนิติบุคคล หรือนิติบุคคลเลิกกันด้วยเหตุอื่น
หากศาลเคยมีคำสั่งยกคำร้องขอ ยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ หรือยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ
ของลูกหนี้ ห้ามมิให้ลูกหนี้ยื่นคำร้องขอให้มีการฟื้นฟูกิจการภายในระยะเวลา 6 เดือนนับ
แต่วันที่ศาลเคยมีคำสั่งยกคำร้องขอ ยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ หรือยกเลิกการฟื้นฟู
กิจการของลูกหนี้ (หากจะยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการใหม่ต้องรอให้พ้นระยะเวลา 6 เดือน
ก่อน)
บุคคลผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ (มาตรา 90/4)
เจ้าหนี้ซึ่งอาจเป็นคนเดียวหรือหลายคนรวมกัน และมีจำนวนหนี้แน่นอนไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท
ลูกหนี้ต้องเป็นบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด หรือ นิติบุคคลอื่นตามที่กำหนดใน
กฎกระทรวง
ธนาคารแห่งประเทศไทย เฉพาะลูกหนี้ที่เป็น
- ธนาคารพาณิชย์
- บริษัทเงินทุน
- บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์
- บริษัทเครดิตฟองซิเอร์
สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เฉพาะลูกหนี้ที่เป็นบริษัทหลักทรัพย์
กรมการประกันภัยเฉพาะลูกหนี้ที่เป็นบริษัทประกันวินาศภัยหรือบริษัทประกันชีวิต
หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลการประกอบกิจการของลูกหนี้ตามที่กำหนดใน
กฎกระทรวง