ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 “ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
มาตรา 359 “ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 358 ได้กระทำต่อ
(1) เครื่องกลหรือเครื่องจักรที่ใช้ในการประกอบกสิกรรมหรืออุตสาหกรรม
(2) ปศุสัตว์
(3) ยวดยานหรือสัตว์พาหนะ ที่ใช้ในการขนส่งสาธารณ หรือในการประกอบกสิกรรม หรืออุตสาหกรรม หรือ
(4) พืชหรือพืชผลของกสิกร
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
มาตรา 360 “ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
มาตรา 360 ทวิ “ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ตามมาตรา 335 ทวิ วรรคหนึ่ง ที่ประดิษฐานอยู่ในสถานที่ตามมาตรา 335 ทวิ วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
มาตรา 361 “ความผิดตามมาตรา 358 และมาตรา 359 เป็นความผิดอันยอมความได้”
องค์ประกอบความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ มาตรา 358
1. ผู้ใด
2.ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์
3. ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย
4. เจตนา (องค์ประกอบภายใน
คำพิพากษาฎีกาที่ .8140/2541 วัว บุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินสาธารณะประโยชน์และได้ถางที่ดินดังกล่าวเพื่อทำไร่ ทำให้บุคคลอื่นทั่วไปไม่สามารถใช้ประโยชน์จากหนองน้ำอันเป็นสาธารณะประโยชน์ในส่วนที่วัวบุกรุกยึดถือครอบครอง เป็นการทำให้หนองน้ำนั้นไร้ประโยชน์แม้เป็นเพียงบางส่วนการกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์·
คำพิพากษาฎีกาที่ 1948/2542 ใช้ค้อนทุบกระจกตู้ เอ.ที.เอ็ม. เพื่อระบายความแค้นโดยไม่มีเจตนาลักทรัพย์ เป็นมาตรา 358· ที่ดินไม่มีโฉนดเจ้าของไม่มีกรรมสิทธิ์ แต่ถือว่าเป็นผู้ครอบครองมีฐานะและสิทธิอย่างเจ้าของ และเป็นเจ้าของต้นยางและน้ำยางในที่นั้น ใครมาลักขุดดินก็เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ หรือขุดดินมาทำนาของเขาเป็นบ่อ แม้เป็นที่ดินไม่มีโฉนด ก็เป็นมาตรา 358
คำพิพากษาฎีกาที่ 166/2509· ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ มาตรา 358 ผู้กระทำต้องมีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย เพียงแต่ถอนเสารั้วของผู้อื่นวางกองไว้เพื่อใช้เป็นทางเดินตามที่เคยใช้ไม่ผิด มาตรา 358 ฎ. 705/257 (ญ)· โจทก์เช่าที่ดินซึ่งมีบ่อเลี้ยงปลาแต่โจทก์ก็ได้ปิดกั้นบ่อ ปลูกต้นไม้ล้มลุก และล้อมรั้วลวดหนามไว้ ต่อมาจำเลยซื้อที่ดินแปลงนั้น แต่โจทก์ยังครอบครองในฐานะผู้เช่าและจำเลยไปวิดปลาในบ่อ ตัดต้นไม่ล้มลุกและรื้อรั้วลวดหนามเหล่านั้น จำเลยย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์
คำพิพากษาฎีกาที่ 1450/2510· คำพิพากษาฎีกาที่ 231/2527 โจทก์จำเลยต่างโต้เถียงกรรมสิทธิ์นาพิพาทกันอยู่ เมื่อโจทก์ปลูกต้นข้าวในนาพิพาท จำเลยเสียหายอย่างไร ชอบที่จะฟ้องร้องว่ากล่าวกัน การที่จำเลยกลับเข้าไถนาพิพาทเป็นเหตุให้ข้าวที่โจทก์ปลูกไว้เสียหาย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์· เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีอำนาจรื้อถอนอาคารที่ไม่มั่นคงแข็งแรงหรือไม่ปลอดภัยตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคารก่อสร้างฯ การรื้อถอนอาคารของเจ้าหน้าที่เป็นการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายจึงไม่มีมูลความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
คำพิพากษาฎีกาที่ 1097/2507 คำพิพากษาฎีกาที่ 3775/2538 เมื่อที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นมีมติถอน ว. และแต่งตั้งจำเลยที่ 6 เป็นกรรมการมีอำนาจทำการแทนบริษัท และศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาตามที่ ว. ยื่นฟ้องขอเพิกถอนมติดังกล่าว ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 6 เป็นกรรมการมีอำนาจทำการแทนบริษัทและมีอำนาจเอาห้องพิพาทของบริษัทที่ ว. เคยอนุญาตให้โจทก์เข้าไปอยู่ แต่ได้ย้ายออกไปแล้วให้ ส. เช่าได้ และเมื่อโจทก์ไม่ยอมขนย้ายทรัพย์สินของโจทก์ตามที่จำเลยที่ 6 ได้มีหนังสือให้โจทก์ขนย้ายออกไป การที่จำเลยที่ 6 สั่งให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ขนย้ายทรัพย์สินดังกล่าว ทั้งได้ขอร้องให้จำเลยที่ 5 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมาเป็นพยาน จึงเป็นการกระทำโดยไม่มีเจตนาบุกรุกทำให้ทรัพย์สินของจำเลยเสียหาย